สบทร.เผยยอดเข้าเว็บพุ่งกระฉูด ชี้คนไทยบริโภคความบันเทิง-ข่าว
สบทร. เผยสถิติคนเข้าเว็บไทยพุ่ง 85.61% ระบุเว็บบันเทิง-ข่าวมาแรง .เนคเทค หวั่นตัวเลขคนเข้าเว็บหน่วยงานราชการ/การศึกษาลดลง กระตุ้นเร่งปรับปรุงเว็บไซต์เพิ่มกระแสนิยม
ดร.ปิยะ ตัณฑวิเชียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยพัฒนาบริการ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ หรือ สบทร. เปิดเผยว่าจากการเก็บข้อมูลสถิติการเยี่ยมเว็บไซต์สมาชิก ศูนย์รวมสถิติเว็บไซต์ และสารบัญเว็บไทย หรือ Truehits.net จำนวน 8,742 ราย พบว่าปี 2548 ที่ผ่านมามีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเข้าเว็บไซต์ทั้งหมด 13,208,630,973 หน้าเว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 85.61% หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ย 36,188,030 หน้าเว็บไซต์ต่อวัน
โดยเว็บไซต์ที่มีปริมาณการเข้าชมสูงสุด คือ เว็บไซต์บันเทิง คิดเป็นสัดส่วน 24.55% เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 2.89% ในขณะที่เว็บไซต์บริการอินเตอร์เน็ตมีสัดส่วนการเข้าชม 20.68% ลดลงจากปี 2547 ประมาณ 8.47% , เว็บไซต์คอมพิวเตอร์ มีสัดส่วนการเข้าชม 2.32% เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 0.3% ,
เว็บไซต์บุคคล-สังคม มีสัดส่วนการเข้าชม 10.63% เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่ผ่านมา 4.63% เว็บไซต์ข่าว-สื่อ มีสัดส่วนการเข้าชม 7.48% เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 0.16% เว็บไซต์ช้อปปิ้ง มีสัดส่วนการเข้าชม 6.07% เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ประมาณ 1.57% , เว็บไซต์หน่วยงานราชการ มีสัดส่วนการเข้าชม 1.64% ลดลงจากปี 2547 ประมาณ 0.13% และเว็บการศึกษา มีสัดส่วนการเข้าชม 1.97% ลดลงจากปี 2547 ประมาณ 0.36%
ดร.ปิยะ กล่าวต่อไปว่าสำหรับระบบปฎิบัติการที่ผู้เยี่ยมชมใช้งานนั้น กว่า 90%เป็นระบบปฎิบัติการวินโดวส์ ของไมโครซอฟท์ ในขณะที่ระบบปฎิบัติลีนุกซ์ มีสัดส่วนเพียง 0.06% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าไทยยังพึงพิงซอฟต์แวร์จากต่างประเทศ เช่นเดียวกับเว็บ เบราเซอร์ ที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตนั้นมีการใช้อินเตอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์ ของไมโครซอฟท์ เชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ เกือบ 100%
ด้านดร.ทวีศักดิ์ กออนัตตกูล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค กล่าวว่าสถิติการเยี่ยมชมเว็บไซต์ตามหมวดต่างๆ ของทรูฮิตปี 2548 ที่ผ่านมา ระบุว่ามีสัดส่วนการเข้าชมเว็บไซต์หน่วยงานราชการ 1.64% ลดลง 0.13% และการศึกษาเพียง 1.97% ลดลง 0.36% ในขณะที่เว็บไซต์บันเทิง มีสัดส่วนการเยี่ยมชมเพิ่มขึ้น โดยคิดเป็นสัดส่วน 24.55%
ซึ่งสถิติดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่นิยมเข้าเว็บไซต์ทางด้านความบันเทิงและความสนุกสนาน มากกว่าความรู้และการซื้อขาย ทั้งนี้มองว่าหน่วยงานราชการและสถาบันการศึกษา ควรมีการนำข้อมูลดังกล่าวไปปรับปรุงพัฒนาบริการ หรือเนื้อหาในเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต
โดยสอดแทรกเนื้อหาทางด้านความบันเทิง และความรู้ที่มีเนื้อหาไม่หนักมากเกินไป หรือบริการที่ทดแทนการเสียเวลาติดต่องานราชการ ขณะที่สำนักงบประมาณ สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการอนุมัติงบประมาณจัดซื้อเครื่องแม่ข่ายให้บริการเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการต่างๆ อาทิ บางหน่วยงานจัดซื้อเครื่องแม่ข่ายราคาเป็นล้านบาทแต่มีผู้เข้าชมไม่กี่คน ในขณะที่โรงเรียนบางแห่งลงทุนเครื่องแม่ข่ายไม่กี่หมื่นบาท แต่มีคนเข้าชมสูงกว่า
|